รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว "บิ๊กตู่" ยิ่งใหญ่ 28 คน จับมือทำงาน แย้มนโยบาย 3 ข้อ 10/01/2023 Stephen Roberts รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว “บิ๊กตู่” ยิ่งใหญ่ในงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” โชว์สมรรถนะ นักการเมืองรุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ 28 คน ประเดิม จับมือทำงาน เพื่อบ้านเมือง บิ๊กตู่ แย้มนโยบาย พรรค 3 ข้อ รื้อถอนสิ่งไม่ดี ลด ปลดเปลื้อง เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ Exhibition Hall 1 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” เปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าสู่สนามลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการ นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รวมทั้งผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรคที่เดินทางมาจากทั่วประเทศร่วมแสดงความยินดีแน่น โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างครึกโครม ก่อนการเริ่มงาน นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ในฐานะสมาชิกอาวุโสของพรรค ได้ขึ้นเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “เสวนาประสาไตรรงค์” โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมการเสวนาจำนวนมาก โดยนายไตรรงค์กล่าวว่า เดี๋ยวนี้ประเทศไทยกำลังมีปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การถูกธุรกิจสีเทา ธุรกิจเกี่ยวกับยาเสพติด เข้ามาทำให้ประเทศชาติตกต่ำ โดยไม่นึกถึงคุณธรรมแล้วก็ศาสนา สิ่งเหล่านี้จะต้องรีบแก้ไข และก็การตั้งพรรคการเมืองขึ้น มาสักพรรคหนึ่งไม่ใช่แค่ ตั้งขึ้นมาแต่จะต้องมีอุดมการณ์ และก็แนวทางที่ชัดเจน ว่าจะให้ประเทศเดินไปทางไหน ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ มุ่งมั่นอย่างชัดเจน หนักแน่นว่าจะคุ้มครองป้องกันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมรักษาประเทศไทย ให้ดำรงความเป็นชาติไทยที่มีอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ เทียบเท่ากับประเทศอื่น ๆ นายไตรรงค์ กล่าวต่อว่าต่อขาน ประเด็นสำคัญในตอนนี้ที่จะต้องให้ความสำคัญและพรรค รวมไทยสร้างชาติ เล็งเห็นคือประเด็นที่หนึ่ง ได้แก่ เรื่องของการเข้ามา ของประเทศมหาอำนาจ บางประเทศที่เข้าล้างสมองเยาวชน ให้เกลียดเกลียดประเทศ เผ่าพันธุ์ ประวัติศาสตร์ รวมทั้งศาสนาของประเทศด้วย คือปัญหาสำคัญ ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญและต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประเด็นต่อ มาคือเรื่องของความเสื่อมทางจริยธรรม การคอร์รัปชัน โกงกินของระบบข้าราชการไทย ที่ทำให้เกิดธุรกิจสีเทาเนื่องจาก มีข้าราชการรวมทั้งนักการเมืองไม่ดีให้การสนับสนุน ตนอยู่ในการเมืองมา 40 ปี ทราบเรื่องนี้ดี ด้วยเหตุนี้จึงมีความคิดเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องล้มล้างให้หมด ส่วนประเด็นสุดท้ายคือ การรักษาประเทศไทย ให้อยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขตลอดกาล เนื่องจากประเทศ ที่ไม่มีระบบกษัตริย์ เป็นศูนย์รวมก็จะทำให้เกิดความแตกแยกเพราะมีการแย่งชิง ตำแหน่งประมุข ของประเทศด้วยแนวทางการต่าง ๆ ทำให้ประเทศย่ำแย่เสมือนประเทศอื่นที่มองเห็นกันมามากมาย ในตอนท้ายของการเสวนา นายไตรรงค์ได้ยกพระบรมราโชวาท ของในหลวง รัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับการส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง แล้วก็ควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความตกระกำลำบากยุ่งวายได้ โดยขอให้ประชาชน ได้เลือกคนดีเข้ามาเป็นตัวแทน เพื่อปกครองบ้านเมือง ตามพระบรมราโชวาท พร้อมบอกว่า ตนอยู่พรรคไหนก็จริงใจ กับพรรคนั้น ไม่ใช่คนเหยียบเรือสองแคม ไม่ใช่ปากอย่างใจอย่าง และมาพรรค รวมไทยสร้างชาติอีกทั้งครอบครัว และยังตระเตรียมให้ลูกสาว ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทนด้วย ขณะเดียวกันยืนยันว่าจะสนับสนุนให้ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะเหตุว่ามั่นใจว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นคนดี ต่อมาเวลา 17.30 น. เป็นการเริ่มพิธีบนเวที โดยวีดิทัศน์แนะนำความเป็นมาของพรรค รวมไทยสร้างชาติ ก่อนที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐตอน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะขึ้นเวทีเปิดตัว ตัวแทนทีมสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ “คนรุ่นใหญ่” รวมทั้ง “คนรุ่นใหม่” โดยมีตัวแทนสมาชิกพรรค ทั้งสองกลุ่มขึ้นเวทีประกาศเจตนารมณ์ แล้วก็ความตั้งใจในการร่วมมือกันสร้างการเมืองที่ดี ที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองใดเคยทำมาก่อน โดยจะเน้นการทำงานเพื่อประชาชน รวมทั้งประเทศชาติ ผ่านแนวคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ เร็ว แล้วก็ทันสมัย ผสมผสานกับการ ทำงานของนักการเมืองรุ่นใหญ่ ที่มีประสบการณ์สูงเพื่อเกิดการทำงานที่มีคุณภาพ มุ่งเป้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน และก็บ้านเมืองอย่างแท้จริง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยได้เห็นมีคนมาประชุมงาน การเมืองมากเท่าวันนี้มาก่อน ในวันนี้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2566 จัดแจงเลือกตั้งเพื่อจะมาเป็นพรรคหลักของประเทศต่อไป ครั้งแรกเพียงแค่เตรียมแผนเพื่อตั้งคณะกรรมการสรรหา แต่ปรากฏว่ามีบุคคลสำคัญที่ประเทศไทยทั้งประเทศจับตาว่าจะมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ ครั้งแรกจะจัดแจงที่ ม.กรุงเทพธนบุรี แต่ไม่ยอมรับคนที่ต้องการจะมาไม่ได้ เพราะเหตุว่าทุกคนต้องการจะมาร่วมให้กำลังใจ เมื่อต่อต้านความต้องการ ไม่ได้ก็เลยต้องย้ายพื้นที่ แต่ก็ไม่พอเนื่องจากว่าปรากฏว่ามีคนล้นพื้นที่ออกไป สำหรับสมาชิกของพรรคที่ยืนอยู่บนเวที ไม่ได้มีแค่นี้แต่ยังมีมากกว่านี้ ตนเคยบอกไว้ตั้งแต่วันเปิดพรรคเมื่อ 3 เดือนสิงหาคมว่าจะนำพาพรรคเป็นพรรคหลักของประเทศ ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งวันนี้จากสมาชิก 7,000 กว่าคน จนถึงตอนนี้มี 30,000 กว่าคนแล้ว นายพีระพันธุ์ กล่าวว่ากล่าว ต่อแต่นี้ไปจะไม่มีสี ไม่มีฝ่าย พรรครวมไทยสร้างชาติจะมีผลให้คนไทยกลับมามีความรักสามัคคีเหมือนเดิม อีกทั้งพี่น้อง นปช. ชาติพันธุ์ กลุ่มเสื้อแดง ทุกคนรักชาติบ้านเมือง ไม่มีใครอยากจะทะเลาะกันอีกแล้ว วันนี้ประเทศไทยจะต้องเดินหน้า พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำแบบนี้ไม่ได้ถ้าหากไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากคนอีกทั้งประเทศ เมื่อก่อนตนประกาศว่าจะเป็นคนนำพาพรรคต่อสู้การลงคะแนนเสียง แต่วันนี้มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นผู้นำ ซึ่งที่ผ่านมาท่านไม่เคยคิดจะเป็นนักการเมืองแต่วันนี้สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการนำ ความรักความสามัคคีกลับมาให้กับประเทศไทย ต่อมาเวลา 18.00 น. ถือเป็นช่วงไฮไลต์สำคัญ คือการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างเป็นทางการ โดยมีการเปิดภาพวีดีโอการลงนามเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินขึ้นเวทีท่ามกลางเสียงตบมือต้อนรับของสมาชิกพรรค ที่มาร่วมงานและโบกธงโลโก้พรรค ให้กำลังใจเต็มห้องประชุม ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวถึง Mission รวมทั้งทิศทางต่อไปเพื่อคนไทยทั้งยังชาติ ว่า รู้สึกขอบคุณ ทุกคนเป็นคนไทยหัวใจเดียวกัน วันนี้ได้มาเป็นวันแรก ครั้งแรกในชีวิตที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และก็พรรคที่เลือกสมัครคือพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนอยู่กับคนไทยมาหลายปีแล้วทุกคนจะจำได้ อย่างไรก็ลบภาพทหารของตัวเองไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ปรับตัวมาตลอด ที่ตนมีวันนี้ได้เพราะว่าคนไทยทุกคน เนื่องจากประเทศไทยคือประเทศที่ศักดิ์สิทธิ์ วันนี้รู้สึกดีใจ ซาบซึ้งใจ และก็ตื่นเต้น อีกทั้งที่ไม่เคยกลัว หรือตื่นเต้นกับอะไรมาก่อน เพราะเหตุว่าเป็นทหารกลัวไม่ได้ กลัวความรักที่ทุกคนให้มาจะเพียงแค่พอกันหรือไม่ ตนรักทุกคน สิ่งสำคัญคือต้องยึดมั่นในชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ สำคัญที่สุด ตนเป็นทหาร ปฏิญาณตนมาคือ การซื่อสัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องการจะมาบอกว่าเพราะอะไรตนต้องอยู่ต่อ ที่ต้องอยู่ต่อเพราะว่ามีหัวใจดวงเดียวกัน ต้องทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ตนเป็นทหาร และทหารทุกคน ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส หลายคนสงสัยว่าอยากยิ่งใหญ่ต่อหรือ ซึ่งขอบอกว่าไม่ใช่ ที่ผ่านมามีอำนาจมาเยอะแยะแล้วตลอดชีวิตราชการ แต่อำนาจต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ และความเป็นกลาง ตนไม่ได้ต้องการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ หรืออยากได้ผลประโยชน์อะไร และยืนยันว่าไม่เคยรับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น แล้วก็ที่มายืนนี้ด้วยเหตุว่าเคารพในกระบวนการ ประชาธิปไตยของประเทศ ที่มาไม่ได้อยาก มาอยู่เพื่อตำแหน่งอะไรต่อ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อบนพื้นฐานความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง ความรุ่งโรจน์ ที่ผ่านมาแก้ปัญหาประเทศมาอย่างตลอด แต่ปัญหามีมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแก้ต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การพัฒนาประเทศมี หลายมิติที่ตนก็ได้พยายามทำมาตลอด และการที่ได้มาร่วมมือกับพรรคนี้ หวังว่าจะสามารถทำได้เร็วขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อถือในเวทีโลก ต้องทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งก่อน เพราะเหตุว่ามีทุกอย่างอยู่แล้ว อย่าให้ใครมาทำลายความรักความสามัคคี คนไทยเป็นคนรักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ยังมีงานที่ตนต้องทำต่อจึงจำเป็นจะต้องต้องมายืนนี้กับผู้บริหารพรรคทุกคน ที่มาจากทุกภาค เพราะทั้งหมดคือประเทศไทยของทุกคน ตนต้องการทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงให้ได้ ที่ผ่านมาโควิดเป็นปัญหาของทั่วทั้งโลกแต่พวกเรา สามารถยืนหยัดอยู่ได้ เป็นตัวอย่างความร่วมมือ ของความเป็นคนไทยของทุกคน ที่ถึงแม้วันนี้หลายอย่างจะดียิ่งขึ้นแล้ว แต่ต้องอย่าประมาทวันหน้าอาจจะมีเกิดขึ้นอีกได้ ต้องจัดเตรียม อาจจะทำให้อึดอัด แต่ต้องพร้อม ต้องการเดินหน้าถึงแม้ว่าจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่าต่อขาน ที่ตนตัดสินใจมาอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยเหตุว่ามีความเห็นว่ามีอุดมการณ์เหมือนกัน คือรักสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์เหมือนกัน ที่ผ่านมานอนไม่หลับมาหลายคืน ว่าจะทำอะไรถัดไปอย่างไรดี ก็ต้องเลือกแต่วันนี้เสมือนละครบุพเพสันนิวาส ตนก็นึกไม่ออกว่ามาลงเอย ที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้อย่างไรแต่ คำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ตนเคยกล่าวไว้เอง ซึ่งตนเชื่อมั่นในตัวของนายพีระพันธุ์ ตนเชื่อมั่นเนื่องจากว่าเป็นนักกฎหมายมาก่อน รวมทั้งทำงานการเมืองมาหลายปี และก็ทำงานกับตนมาและเป็นที่ขอคำแนะนำของตนเอง ตนรู้จักมานานว่า เป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพ และนักการเมืองทั้งคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ที่จะร่วมกันทำงาน เป็นการทำงานร่วมกันของคนทุกรุ่นเพื่อประเทศไทยของทุกคน “นโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ รื้อถอน ไม่ใช่รื้อถอนทุกอย่าง ต้องดูว่าระเบียบ กฎหมายอะไรที่ต้องแก้ไขบ้าง ที่เขาเรียกว่ากฎหมายกิโยติน บางอย่างไม่ดีก็ต้องเลิก เพื่อทันสมัย เป็นสากลนั่นคือการรื้อถอน สองคือลดภาระหน้าที่ต่าง ๆ ของประชาชนในการดำรงชีวิต สามคือปลดเปลื้องภาระหน้าที่ค่าครองชีพรวมทั้งหนี้สินด้วยรูปแบบใหม่ ๆ สร้างสังคมใหม่ของชาติเป็นการมีน้ำใจด้วยวิธีการที่ชอบธรรมที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย โดยไม่ทิ้งภาระหน้าที่ไว้ให้คนข้างหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ดังนี้ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำผู้บริหารพรรคทั้งหมดร้องเพลง ศรัทธา ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วก็นายพีระพันธุ์จะร่วมกันโบกธงไตรรงค์ และธงสัญลักษณ์พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมปักลงบนเวที จากนั้นจึงได้นำผู้บริหาร รวมทั้งสมาชิกทุกคนร่วมกันชูมือ และก็มีการเคลื่อนธงรวมไทยสร้างชาติขนาดใหญ่ผ่านสมาชิกพรรคสู่บริเวณหน้าเวที ในตอนท้ายทั้งหมดได้ถ่ายภาพและก็ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ด้วยกันอย่างกึกก้องห้องประชุม นับเป็นการเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และยังถือเป็นการเริ่มการเดินหน้าของพรรครวมไทยสร้างชาติในการจัดเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนี้อีกด้วย ดังนี้รายชื่อ สมาชิกพรรค รวมไทยสร้างชาติ ที่ขึ้นมาเปิดตัวภายในงาน ประกอบด้วย รุ่นใหญ่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายชัชวาลล์ คงอุดม นายชุมพล กาญจนะ นพ.ปรีชา มุสิกุล นายวิทยา แก้วภราดัย นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา นายสามารถ มะลูลีม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ นายโกวิทย์ ธารณา นายเกรียงยศ สุดลาภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล รุ่นใหม่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รศ.(พิเศษ) ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง นายชื่นชอบ คงอุดม นายสยาม บางกุลธรรม นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ นางสาวศิรินันท์ ศิริพานิช นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ นายวินท์ สุธีรชัย นายอภิชา นิธิอนันตภร นางสาวณัฐวรินธร บวรภัค